“จำเป็นต้องให้ชุมชนเป็นคนบอกกับพวกเราว่า ประธาน อาจารย์ เด็กนักเรียน ในสถานที่เรียนนี้เปลี่ยนไปในทางที่ดียิ่งขึ้นอย่างไรบ้าง”
ในช่วงเวลาที่ 10 “สถานศึกษาความดีงาม”
การพัฒนาสถานที่เรียนคุณงามความดีต้นแบบ
ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
สถานศึกษาปิดภาคการศึกษาแล้ว ผู้เรียนหยุด แม้กระนั้นอาจารย์ไม่หยุด การพัฒนา “บางมูลนากโมเดล” ยังคงปรับปรุงไปตามช่วงเวลา เริ่มที่เกิดขึ้นจากด้านการเรียนทราบ ปรับปรุงโดยตลอด มุ่งสู่ความคงทน ถัดไป
เวลาเช้าผมกับคณะทำงานได้แวะกินข้าวแกงในตลาดบางมูลนาก
ผมถามแม่ค้า ว่า “เด็กนักเรียนสถานศึกษาภูเขาไม่ฯ เป็นอย่างไรกันบ้าง”
แม่ค้าข้าวแกง ขอความกรุณาปรานีเอื้อเฟื้อเวลา เล่าให้ผมฟังว่า “ในเดี๋ยวนี้จะมองเห็นผู้เรียนกรุ๊ปหนึ่งมาบำเพ็ญคุณประโยชน์ทำจิตสมัครใจ ที่ลานพระรูปสมเด็จพระปิยมหาราชที่ว่าการอำเภอ ทุกอาทิตย์”
ผมรับประทานอาหารเสร็จ ก็เลยแวะเข้าไปไต่ถามประชาชนที่ศาลเจ้าบิดาแก้ว และก็ที่หน้าลานพระรูปสมเด็จพระปิยมหาราช
ก็ได้ความว่า “มีนักเรียนเข้ามาทำกิจกรรมบ่อยๆ จนถึงท่านนายอำเภอท่านสงสัยว่านักเรียนมาทำอะไรกัน ภายหลังที่ได้มีการชี้แจงให้แด่ท่านรู้เรื่อง ท่านชื่นชอบรวมทั้งหาวัสดุเครื่องใช้ไม้สอยมาช่วยส่งเสริม แล้วก็ได้พึงพอใจที่จะถามกระทั่งทราบดีว่า สถานที่เรียนได้ปรับปรุงเป็นสถานศึกษาคุณงามความดีต้นแบบท่านก็เลยเข้ามาช่วยส่งเสริมเต็มกำลังแล้วก็ได้ส่งข้าราชการเข้ามาทำความเข้าใจ มีความเห็นว่าจะนำไปขยายผลเป็นโครงงานอำเภอศีลธรรม”
ผมเจอประชาชนอีกกรุ๊ปหนึ่งหน้าสถานศึกษา ก็เลยขอให้เขาเล่าให้ฟัง
“ช่วงแรกก็สงสัยว่า เพราะอะไรตอนนี้ช่วงเช้าในวันแล้ววันเล่า ถึงมีประธาน อาจารย์ คณะกรรมการโรงเรียน ผู้แทนผู้ดูแล มาอยู่ที่หน้าสถานศึกษาเยอะไปหมด ซึ่งก่อนหน้าไม่มี ทำให้หน้าสถานที่เรียนเป็นหลักที่ปลอดภัย มีระบบระเบียบระเบียบ เยอะขึ้นเรื่อยๆ มีการจัดระบบจราจรใหม่ด้วย เฝ้าอยู่ ในเวลานี้มองเห็นความมีระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้นนะ”
ผมคุยกับราษฎรกลุ่มนี้ แล้วรู้สึกอิ่มจริงๆไม่ใช่แค่อิ่มอก ปลื้มใจ เพียงแค่นั้น แม้กระนั้นอิ่มท้องด้วย ของหวานกง ของหวานประจำอำเภอ อร่อยจริงๆ555 เลยขอซื้อเหมา ไปแจกคณะทำงาน ภายหลังจากคุยเสร็จ คนไหนกันแน่มาบางมูลนากแล้วมิได้ลองของหวานกง แปลว่ายังมาไม่ถึง งวดหน้ามาใหม่ 555
กำลังจะเดินเข้าสถานศึกษา ผมเจอผู้แทนชุมชน ก็เลยถามคำถามว่า “มองเห็นความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง ในสถานศึกษาบางมูลนากวิชาภูมิวิทยาคม”
ผู้แทนชุมชน เล่าให้ผมฟังว่า “เท่าที่มองเห็นเดิมสถานศึกษาจะมุ่งไปที่การศึกษาเล่าเรียนการสอนในสถานศึกษาเพียงแค่นั้น ประธานไม่มีหลักการให้ผู้เรียนออกไปทำกิจกรรมนอกสถานศึกษา แต่ว่าปัจจุบันนี้มีนักเรียนกรุ๊ปหนึ่ง ได้ทำของหวานออกขาย เล่นดนตรี หารายได้ซื้อวัสดุอุปกรณ์กีฬา เพื่อนำไปบริจาคช่วยสถานศึกษาพี่ สถานศึกษาน้อง”
ผมสรุปการทำงานในการพัฒนาสถานที่เรียนคุณความดีต้นแบบ “บางมูลนากโมเดล” ร่วมกับคณะทำงานพบว่า ตัวชี้วัดหนึ่ง ที่สำคัญ ก็คือ ชุมชน ซึ่งตรงกับที่ท่านประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มอบแนวความคิดไว้ให้ตั้งแต่เริ่มทำโครงงานแล้ว สถานศึกษาบางมูลนากธรณีวิทยาคม เป็นสถานศึกษาของชุมชน เป็นสถานศึกษาที่ชุมชนจำต้องส่งลูก หลาน เข้ามาเรียน เป็นสถานที่บ่มเพาะ อีกทั้งวิชาความรู้ รวมทั้งความดีงาม “จำเป็นต้องให้ชุมชนเป็นคนบอกกับพวกเราว่า ประธาน คุณครู ผู้เรียน ในสถานที่เรียนนี้เปลี่ยนไปในทางที่ดียิ่งขึ้นอย่างไรบ้าง” ซึ่งนี้คงจะได้ข้อสรุปพื้นฐานรวมทั้งสำเร็จลัพธ์ของการพัฒนาสถานศึกษาศีลธรรมจรรยาบรรณ ในระยะที่ 1 ซึ่งคงจะจะต้องติดตามมองการพัฒนากันถัดไป
ก่อนที่จะกลับ ผมแอบถามอาจารย์หลายๆท่านว่า “อาจารย์รู้สึกว่า อะไรเป็น สาเหตุสู่ความยั่งยืนและมั่นคง ของ “บางมูลนากโมเดล””
อาจารย์ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “จิตวิญญาณที่ความเป็นคุณครู”
คำตอบนี้ทำให้ผมระลึกถึงการทำงานของศูนย์ความดีงามขึ้นมาในทันที “เริ่มที่ตัวเอง คิดเชิงบวก มุ่งไปด้านหน้า” ซึ่งผมรู้สึกว่าสำหรับในการดำเนินการระยะที่ 2 รวมทั้งการขยายผล อาจจำต้องนำเรื่อง “จิตวิญญาณที่ความเป็นอาจารย์” มาเป็นหัวข้อหลักสำหรับการขับ สถานที่เรียนคุณความดี จรรยาบรรณ ถัดไป